โรงเรียนวัดมะเฟือง

หมู่ที่ 7 บ้านวัดมะเฟือง ตำบลนากะชะ อำเภอฉวาง จังหวัดนครศรีธรรมราช 80260

Mon - Fri: 9:00 - 17:30

081 2719187

โรคเก๊าท์ ทำความเข้าใจเกี่ยวกับการรักษาโรคเก๊าท์สามารถทำได้อย่างไร

โรคเก๊าท์ เป็นภาวะที่มีการอักเสบของข้อต่อ ที่เกิดจากการสะสมของกรดยูริกในข้อต่อ เป็นโรคที่พบได้บ่อยที่ส่งผลต่อกระดูกและข้อ โดยปกติแล้ว ร่างกายมนุษย์สร้างกรดยูริกประมาณร้อยละ 80 โดยร้อยละ 20 ที่เหลือมาจากแหล่งอาหาร เมื่อกรดยูริกสะสมในข้อ และตกผลึกจะส่งผลให้เกิดการอักเสบของข้อ ทำให้เกิดอาการปวด บวม และร้อนในบริเวณที่เป็น โรคนี้มักพบในเพศชาย โดยพบในเพศชายมากกว่าเพศหญิงถึง 9 เท่า

อย่างไรก็ตาม ผู้หญิงที่เข้าสู่วัยหมดประจำเดือนมีแนวโน้มที่จะเกิดโรคข้ออักเสบได้ง่ายกว่า กรดยูริกเป็นสารประกอบที่เป็นกรดซึ่งร่างกายสร้างขึ้น และยังสามารถดูดซึมผ่านการบริโภคสัตว์ปีก เครื่องในสัตว์ ผักบางชนิด และสัตว์ทะเล สารนี้มีแนวโน้มที่จะสะสมในข้อต่อ เยื่อบุหลอดเลือด และไต โดยปกติร่างกายจะกำจัดกรดยูริกออกทางกระบวนการปัสสาวะ

การสะสมของกรดยูริกในร่างกาย มักเป็นผลมาจากการบริโภคอาหารที่มีปริมาณกรดยูริกสูง สิ่งนี้สามารถนำไปสู่การขับกรดยูริกออกจากร่างกายเมื่อเวลาผ่านไป เมื่อไตทำงานผิดปกติ ร่างกายอาจขับกรดยูริกออกมาผิดปกติ ส่งผลให้ความสามารถในการกำจัดกรดยูริกออกจากระบบลดลง

มีหลายปัจจัยที่นำไปสู่การพัฒนาของ โรคเก๊าท์ สาเหตุที่นำไปสู่การตกตะกอนของกรดยูริกเป็นผลึกในข้อต่อมีดังต่อไปนี้ เมื่อพูดถึงพฤติกรรมการกิน อาหารบางชนิดควรบริโภคในปริมาณที่พอเหมาะ เนื่องจากกรดยูริกในอาหารนั้นมีปริมาณสูง อาหารเหล่านี้ได้แก่ เนื้อสัตว์ เครื่องใน อาหารทะเล เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และเครื่องดื่มที่มีฟรุกโตสสูง

ยาบางชนิด เช่น ยาขับปัสสาวะและยาลดความดันโลหิต อาจทำให้การขับกรดยูริกออกทางปัสสาวะลดลง ส่งผลให้เกิดผลกระทบต่างๆ สภาวะทางการแพทย์ต่างๆ เช่น มะเร็ง มะเร็งเม็ดเลือดขาว สะเก็ดเงิน โรคอ้วน เบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคไต และอื่นๆ อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงได้

สัญญาณบ่งบอกว่าเป็นโรคเก๊าท์ ผู้ป่วยโรคเก๊าท์มักมีอาการแสดงที่ข้อต่อ โดยเฉพาะที่เท้าและนิ้วหัวแม่เท้า อาการเหล่านี้ ได้แก่ ปวด บวม แดง และอุ่นในบริเวณที่ได้รับผลกระทบ อาการปวดมักเป็นๆ หายๆ และอาจเกิดขึ้นเป็นๆ หายๆ อาการปวดเรื้อรังยังเป็นลักษณะทั่วไปของโรคเก๊าท์อีกด้วย ซึ่งอาจทำให้รู้สึกไม่สบายในข้อต่อทั้งหมด อาการต่อไปนี้เป็นอาการทั่วไปของโรคเก๊าท์ ได้แก่ ปวด บวม แดง และอุ่นบริเวณนิ้วหัวแม่เท้า

โรคเก๊าท์

หากคุณกำลังมีอาการปวด บวม แดง และร้อนบริเวณข้อต่อกระดูกของนิ้วหัวแม่เท้า แสดงว่าคุณอาจมีอาการนี้ มีอาการปวดข้อเป็นพักๆ การบริโภคอาหารบางชนิด เช่น สัตว์ปีก อาหารทะเล เครื่องในสัตว์ และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อาจส่งผลให้ปวดข้อมากขึ้น

ในการวินิจฉัยโรคเก๊าท์ แพทย์จะเริ่มจากการซักถามประวัติทางการแพทย์ของผู้ป่วย และทำการตรวจร่างกายเพื่อประเมินอาการ เพื่อให้ได้การวินิจฉัยที่แม่นยำ แพทย์อาจทำหัตถการโดยการเจาะเข้าไปในข้อต่อ และตรวจดูผลึกกรดยูริก นอกจากนี้ อาจมีการตรวจเลือดเพื่อหาระดับของกรดยูริกในกระแสเลือด และอาจใช้การสแกน CT พลังงานคู่ เพื่อให้เห็นภาพผลึกกรดยูริกใดๆ ที่มีอยู่ในข้อต่อ

การรักษาโรคเก๊าท์สามารถทำได้ โดยการลดกรดยูริกในกระแสเลือดให้อยู่ในระดับที่ยอมรับได้ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายนี้ สามารถให้ยาที่ละลายผลึกกรดยูริกในปริมาณที่วัดได้ อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือต้องสังเกตว่า การรักษาดังกล่าวต้องใช้ยาอย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยในกระบวนการบำบัดต่อไป การปรับเปลี่ยนวิถีการดำเนินชีวิตที่ดีต่อสุขภาพสามารถพิสูจน์ได้ว่าเป็นประโยชน์ แนวทางเหล่านี้สำหรับการปรับเปลี่ยนนิสัยประจำวัน ได้แก่

1. แนะนำให้งดเว้นจากการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงสุรา เบียร์ และไวน์ 2. เพื่อลดการบริโภคอาหาร ขอแนะนำให้ลดปริมาณเนื้อสัตว์ปีกและอาหารทะเล 3. ตรวจสอบให้แน่ใจว่า คุณดื่มน้ำเพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย

4. เมื่อมีอาการปวด วิธีปฏิบัติที่แนะนำคือการประคบเย็น และปล่อยให้ข้อต่อที่ได้รับผลกระทบได้พัก ควรหลีกเลี่ยงการบีบเพราะอาจทำให้กรดยูริกสะสมได้ นอกจากนี้ หากปล่อยไว้โดยไม่รักษา อาการปวดอาจลุกลามและทำให้เกิดการอักเสบต่อไปได้ 5. เพื่อป้องกันการเพิ่มขึ้นของระดับกรดยูริกในกระแสเลือด แนะนำให้งดการใช้ยาขับปัสสาวะและยาลดความดันโลหิต เป็นที่ทราบกันดีว่ายาเหล่านี้ทำให้ระดับกรดยูริกสูงขึ้น

กุญแจสำคัญคือการรักษาน้ำหนักตัวของคุณให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ และหลีกเลี่ยงการมีน้ำหนักเกิน สาเหตุของโรคเก๊าท์คือกรดยูริกในร่างกายมีมากเกินไป ในการรักษาโรคเก๊าท์ จำเป็นต้องให้อาหารบำรุงไต เพื่อให้ไตทำงานได้อย่างถูกต้อง ส่งผลให้ความสามารถในการขับกรดยูริกออกจากร่างกาย การป้องกันโรคเก๊าท์อย่างต่อเนื่อง สามารถทำได้โดยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคอาหาร

โรคเก๊าท์เป็นภาวะที่มีการอักเสบ ซึ่งเป็นผลมาจากระดับกรดยูริกในกระแสเลือดมากเกินไป ส่วนเกินนี้นำไปสู่การก่อตัวของผลึกในข้อต่อ ซึ่งทำให้เกิดอาการปวดและบวมโดยเฉพาะที่เท้าและศีรษะ ในการรักษาโรคเก๊าท์ จำเป็นต้องระบุสาเหตุของอาการ แม้ว่าอาหารทะเลมักถูกอ้างถึงว่าเป็นปัจจัยร่วม แต่ก็มีปัจจัยอื่นๆ อีกมากมายที่ต้องพิจารณาเมื่อรักษาโรคเก๊าท์

บทความที่น่าสนใจ : แม่น้ำแยงซี ความแห้งแล้งในแม่น้ำแยงซีเกี่ยวข้องกับอ่างเก็บน้ำสามโตรก